:;
I love No. 2 ;:
เจ็บใจที่สุดเลย ไม่อยากเจอหน้าด้วย
ไม่อยากจะเจอเลย ทำยังไงดีๆ....ไม่สบาย!!
ใช่ต้องแกล้งไม่สบาย แต่จะทำยังไงดีอ่า??
ผมเปิดคอมเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการแกล้งไม่สบายให้เนียนที่สุด แหมะๆ ความคิด-*- เจอแล้วๆ ผมรีบเปิดเข้าไปดูว่ามันต้องทำยังไงบ้าง ก็ได้ความว่าต้องทำให้ตัวเองไม่สบาย......(-*- ผมอยากฆ่าคนเขียน!!)
สรุปทั้งคืนผมก็นอนคิดเรื่องไม่สบายจนไม่ได้นอน จากที่จะแกล้งกลายเป็นว่าไม่สบายจริงๆเลย แค่ปวดหัวเท่านั้นแต่ก้เล่นเอาผมลุกไม่ขึ้นเลยเหมือนกันนะ เคยเป็นมั้ยล่ะฮะ เวลาที่ไม่ได้นอนทั้งคืนอ่ะ บางคนอาจจะลุกเดินได้ตามปกติ แต่ผมยังเด็กอยู่ไงแถมไม่เคยนอนดึกแล้วก็อดนอนแบบนี้ด้วย เลยปวดหัวอ่ะฮะ
“หยกลูก มันจะสายเอานะถ้าไม่รีบไปโรงเรียนน่ะ”
เสียงแม่ดังอยู่หน้าห้อง ผมเลยส่งเสียงอับแหบพร่าของตัวเองตอบไป
“ฮะแม่ หยกปวดหัวมากเลยฮะ”
“เป็นอะไรมากมั้ยลูก แม่เข้าไปนะ”
แม่พูดแล้วเปิดประตูเข้ามาเลย
ก่อนจะเดินเข้ามาหาผมที่นอนอยู่บนเตียงด้วยซะภาพที่ดูไม่ได้
“อืม ตัวไม่ค่อยร้อน หน้าซีด
งั้นเดี๋ยวแม่จะไปจัดยามาให้นะจ๊ะ” ผมพยักหน้ารับ แล้วแม่ก็เดินออกไป ผมลืมบอกไปฮะ
แม่ผมเป็นหมอล่ะ ดีใช้มั้ยล๊าาา แต่มันไม่ดีตรงที่ผมแกล้งไม่สบายไม่ได้ แม่รู้หมด
ผมถึงต้องหาข้อมูล แต่ไปๆมาๆผมก็ป่วยเอง ไม่ต้องให้เนียนล่ะ
“ทานข้าวต้มนี่หน่อยนะ แล้วจะได้ทานยา”
แม่บอกแล้วป้อนข้าวผมไปด้วยผมก็อ้าปากกินตามที่แม่ป้อน
พอกินเสร็จผมก็รับยาจากแม่มากิน พอทุกอย่างอะไรเรียบร้อยแล้วแม่ก็สั่งไว้ก่อนจะออกไป
“พักผ่อนให้เยอะๆล่ะ
แล้วอย่าลืมโทรไปบอกชินด้วยนะลูก...แม่ต้องรีบไปโรงพยาบาลแล้ว วันนี้เวณแม่
ดูแลตัวเองหน่อยนะหยก มีอะไรก็เรียกป้าลีเลยนะ แม่บอกป้าแกไว้แล้ว”
มาเป็นชุดเลยล่ะฮะ ผมได้แต่พยักหน้ารับแล้วหยิบเอาโทรศัพท์มากดโทรหาชิน
เมื่อแม่เดินออกจากห้องไปแล้ว
“ชินเค้าไม่สบายอ่ะ ฝากลาอาจารย์ให้หน่อยนะ”
[โอเคๆ เค้าจะบอกอาจารย์ให้
ตัวก็พักผ่อนเยอะๆนะ] ชินพูดแค่นั้นแล้ววางสายไป
ผมก็นอนเล่นเกมไปสักพัก ก็เผลอหลับไป
“คุณหนูหยก ป้าเข้าไปนะค่ะ”
“อื้อออ” ผมค่อยๆลืมตาขึ้นปรับโฟกัสสายตาให้มองอะไรได้ชัดเจนๆหน่อย
แล้วมองไปที่ป้าลีที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับทาดอาหารและยา
“ป้าเอาข้าวมาให้ค่ะ
ล้างหน้าล้างตาแล้วอย่าลืนทานนะค่ะ เดี๋ยวป้ามาเก็บถ้วย” ป้าแกพูดจบก็เดินออกไป
ผมเลยลุกขึ้นนั่งลงจากเตียงเดินเข้าไปอาบน้ำอะไรให้เรียบร้อย
ได้นอนไปหลายชั่วโมงรู้สึกดีขึ้นมาเลยล่ะฮะ
ผมออกจากห้องน้ำด้วยสภาพร่างกายที่ชดชื่นสุดๆ
เดินมานั่งทานอาหารที่โต๊ะข้างเตียง ทานยาด้วย ถึงผมจะเกลียดการกินยามากก็เถอะ....พอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยไปหมดแล้ว
ผมก็มานอนเล่นเกม อ่านการ์ตูน ดูทีวีเล่นฆ่าเวลารอให้มันหมดวันไปเร็วๆ
--------------++++++++++-------------
ตกเย็นผมกำลังเล่นเกมอยู่ ชินก็โทรมาผมกดรับสายด้วยน้ำเสียงสดใส รู้สึกเบื่ออยู่ด้วยคุยกับชินมันคงจะทำให้ผมหายเบื่อไปได้บ้างแหละ
[หยกตัวเป็นไงบ้างอ่ะ] ชินร้องถามด้วยความเป็นห่วง
“อื้อ เค้าหายแล้วแล้วล่ะ
แค่ปวดหัวนิดหน่อยเอง นอนพักวันเดียวก็หายแล้ว”
[แล้วตัว ทำอะไรอยู่อ่ะ?]
“เค้ากำลังอ่านหนังสืออยู่อ่ะ
ว่าแต่วันนี้มีการบ้านอะไรรึเปล่า?”
[มีนะ แปบนะเค้าไปดูก่อน....]
ชินเงียบไปสักพักก็บอกการบ้านผม
“แค่นี้ใช่มั้ยอ่ะ?”
[อื้ออ]
“โอเคเค้าจะรีบทำ เอ่อ...ตัว
เค้ามีเรื่องจะ...” ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูด
เสียงแม่ก็ดังขึ้นมาก่อน “หยกมีเพื่อนมาหาลูก” ผมเลยตอบรับแม่ไป
ก่อนจะหันมาพูดกับชิน
“ฮะแม่เดี๋ยวหยกไป...ตัวเค้าต้องวางแล้วอ่ะ
เอาไว้เค้าจะโทรไปใหม่แล้วกันนะ”
พอวางสายจากชิน ผมก็ลงจากเตียงเดินไปด้านล่างของบ้าน
เพื่อไปดูว่าใครกันที่มาหาผมตอนนี้(เวลาประมาณ 19.46 น.)
เมื่อลงมาถึงผมก็เห็นแม่นั่งคุยอะไรไม่รู้อยู่กับ...พี่จิน!!
เขามาทำอะไรที่นี่?
“พี่จิน?” ผมเรียกร่างสูงด้วยความสงสัย
“หยกมาพอดีเลยลูก พี่เขามาเยี่ยมแหนะ”
แม่พูดยิ้มๆ ดูก็รู้ว่าแม่ชอบพี่จิน(เพราะหล่อ) คุยกันถูกคอ แถมพี่เขายังรู้วิธิเข้าหาแม่ผมอีก
รู้ได้ไงว่าแม่ผมชอบยอ?
“เป็นไงมั้ง?” พี่เขาถามเมื่อผมนั่งลงข้างแม่
“หายแล้วฮะ ขอบคุณที่มาเยี่ยม” ผมตอบออกไปเรียบๆ
“หยก พูดกับพี่เขาดีๆสิลูก” แม่ดุผม
ผมหน้ามุ่ยแล้วทำท่าจะลุกเดินกลับขึ้นห้องไป แต่ก็ถูกร่างสูงพูดขัดขึ้นก่อน
“คุณแม่ครับ ผมพาน้องไปเที่ยวได้มั้ย?” ห๊ะ! นี่กล้าดียังไงมาเรียกแม่ผม
ว่าแม่กัน...แล้วดูแม่สิ ท่าทางดีอกดีใจนี่มันอะไร?
“ได้สิจ๊ะ แหมๆ คนกันเองอยู่แล้ว
ยังไงแม่ฝากน้องด้วยนะจะพากลับเมื่อไหร่ก็ได้”
แม่พูดแล้วหันมามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า พรางทำหน้าใช้ความคิด
“หยก” ผมสะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนจะตอบแม่ไป
“ฮะ? แม่”
“ขึ้นห้องไปกับแม่ก่อน...ส่วนจินรอน้องแปบนะ
รอหน่อยจะได้เห็นอะไรดีๆ”
แม่พูดแล้วยิ้มกรุ้มกริ้มก่อนจะเดินมาจับมือผมเดินขึ้นมายังชั้นสอง
ตรงไปที่ห้องนอนของผมฮะ
“แม่จะทำอะไรอ่ะ??”
“แม่จะแปลงโฉม ใบหยก ให้กลายเป็น หนูน้อยใบหยก”
“เอ๊???”
---------------------++++++ต่อ+++++++-----------------------
ไม่จริงน่า!!
นี่ผมงั้นหรอ? ไม่ใช่ๆ นั่นมันเด็กผู้หญิงชัดๆ
เหมือนพวกเด็กผู้หญิงในห้องเลย พวกที่ชอบแต่งหน้าทาแป้งหนาเตอะ
แถมยังแต่งนู้นนี่นั่นเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วก็ไม่ใช่ว่ามันจะสวยหรือน่ารักอะไรเลยด้วย....จูออนดีๆนี่เองอ่าาา มีหวังจูออนยังดูดีกว่าเลยY^Y
แต่ว่าๆๆๆๆ...ถึงผมจะบอกว่าเหมือนเด็กผู้หญิงในห้อง
ไม่ได้หมายความว่าแม่ของผมจะแต่งหน้าให้ผมนะฮะ
แม่แค่เอาชุดที่ผมใส่แล้วดูน่ารักมาให้ผมใส่(ชุดของผมนะ)และจัดการแต่งนู้นจับนี่อะไรอีกนิดหน่อยผมก็น่ารักแล้ว
อิอิ
“อร๊ายยยย ลูกใครทำไมน่ารักขนาดนี้” เอ่อ
ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้นะฮะว่าใคร
“แม่ฮะ หยกเป็นผู้ชายนะฮะ
แม่แต่งตัวให้หยกเหมือนผู้หญิงเลยอ่ะ” ผมพูดกับแม่ด้วยความน้อยใจ
ถึงจะชอบที่ตัวเองน่ารัก แต่ผมก็ไม่ได้อยากจะให้ใครเห็นผมเวลาแต่ตัวน่ารักหรอกนะ ยิ่งไอ้พี่จินยิ่งแล้วใหญ่เลย
เป็นไปได้ไม่ต้องได้เจอกันเลยจะดีมาก
“โธ่ ลูกรักกก
แม่ก็อยากให้หนูได้แต่งตัวอะไรบ้างเท่านั้นเองนะ แถมดูสิ ลูกแม่น่ารักขนาดนี้
รับรองพี่จินเค้าคลั่งแน่” ห๊ะ!!
“ห๊ะ! เมื่อกี้แม่พูดอะไรนะ
หยกได้ยินไม่ชัด” ผมถามแม่ด้วยความสงสัย ก็อย่างที่บอกช่วงประโยคท้ายๆ
แม่พูดเบามากเลย ผมได้ยินไม่ชัดอ่ะ อะไรคลั่งๆนี่แหละ
“ไม่มีอะไรจ๊ะ ป่ะ ลงไปกันได้แล้วนะ
พี่เขารออยู่” งื้อออ แม่พูดเหมือนผมอยู่ในช่วงที่กำลังจะแต่งงานเลยอ่า(เกี่ยว??)
ผมเดินตามแม่ลงมาข้างล่างด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
พอลงมาถึงเท่านั้นแหละก้เห็นพี่จินกำลังนั่งจ้องมองมมาที่ผมตาไม่กระพริบเลยอ่ะ
ฮื่อออ ผมไม่น่ารักขนาดนั้นเลยหรอ ถึงได้จ้องแล้วจ้องอีก
เพื่อหาความน่ารักของผมอ่ะ แง๊งงง ไม่เอาแล้ว ไม่สนใจด้วยแล้ว.....ผมงอน!!
เอ๊ะ! แล้วผมจะงอนทำไมอ่ะ
ผมตั้งท่าจะเดินกลับขึ้นไปบนบ้านแต่ก็ถูกมือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือซะก่อน
“งั้นผมก็พาน้องไปก่อนนะครับ
คุณแม่ยังไงถ้ามันดึก ผมจะให้น้องค้างบ้านผมแทนนะครับ
จะได้ไม่รบกวนเวลานอนของคุณแม่ให้มาเปิดประตูบ้านน่ะครับ” พี่มันพูดเร็วๆกับแม่ผม
ท่านก็พยักหน้ารับแถมยังซุบซิบอะไรกันไม่รู้ อยู่สองคน
ผมได้แต่ทำหน้าบึงไม่สบอารมณ์เอาซะเลย ให้ตายสิ!!
ร่างสูงจับมือผมเดินออกมาจากบ้านและตรงไปที่รถของเขา ต่างคนต่างเดินเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร ที่ผมไม่พูดเพราะไม่อยากจะพูดอะไรกับเขา แต่สำหรับเขาผมไม่รู้
“ไม่คิดจะพูดกับพี่หน่อยหรอ” เขาถามผม
ผมเงยหน้ามองเขาเล็กน้อย แล้วก้มลงมามองทางเหมือนเดิม โดยที่ไม่พูดอะไร...
“เรื่องเมื่อวาน พี่....พี่ขอ..”
พี่เขายังพูดไม่จบ ผมก็ขัดขึ้นมากก่อน เมื่อเราเข้ามาอยู่ในรถแล้ว
“พอเถอะฮะ! ช่างมันเถอะ ผมว่า
ผมคงผิดเองแหละ...” อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ฮะ ผมอาจจะผิดเองแหละ อ่า ไม่อยากจะพูดอะไรตอนนี้เลย...
รู้สึกคอบตาร้อนผ่าว
มันหน่วงๆยังไงไม่รู้
“แต่พี่...”
“พี่จะพาผมไปไหน?” ผมพูดแทรกขึ้นมาก่อน
พี่จินเลยเงียบไป ก่อนจะตอบคำถามของผมแทน ประโยคที่พี่เขาจะพูด
“เอ่อ ไปทานข้าวเย็นน่ะ”
“งั้นหรอฮะ...ก็รีบไปสิ ผมจะได้กลับบ้านเร็วๆ”
พี่จินเลยสตาร์ทรถ และขับออกจากบริเวณบ้านของผมไป
“นี่ไม่อยากอยู่กับพี่ขนาดนั้นเลยหรอ”
“ถ้าผมบอกว่า ใช่ ล่ะฮะ”
“.....”
“.....” ในเมื่อพี่เขาไม่พูดอะไรแล้ว
ผมเองก็นั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ที่ขึ้นรถมา จนถึงร้านอาหารที่พี่เขาจะพาผมมาทาน
เมื่อมาถึงพี่จินก็ขับรถไปจอดไว้ตรงที่สำหรับจอดรถของร้าน และเดินมาเปิดประตูให้ผม โดยที่ผมไม่เข้าใจว่าพี่เขาจะทำแบบนี้ทำไม??
“เชิญครับ” พูดแค่ ผมเลยจำต้องลงจากรถ
และเดินล้วงหน้ามาก่อนโดยไม่คิดที่จะรอพี่จิน...ไม่จำเป็นต้องรอ...เป็นไปได้
ผมไม่อยากจะนั่งทานข้าวร่วมโต๊ะกับเขาเลยด้วยซ้ำ
งื้ออออ วันนี้ได้คุยกับชินแถมยังได้พักผ่อน
ตั้งใจจะอารมณ์ดีแท้ๆ แต่ทำไมพอเห็น คุย หรือเวลาอยู่กับพี่จินผมถึงได้หงุดหงิด
และเจ็บปวดในเวลาเดียวกันได้!
ไอ้ความรู้สึกบ้าๆ แบบนี้มันอะไรกัน!!
---------------++++++++---------------
“รับอะไรดีครับ”
เสียงพนักงานสาวสวย(หรือเปล่า)ถาม ผมไม่ได้พูดอะไร แค่ชี้ไปที่อาหารพี่เขาก็จดๆ
แล้วหันไปถามพี่จินบ้าง พี่เขาเหล่มองมาที่ผม แล้วพูดกับพนักงาน
“ผมเอาไก่อบชีส แล้วก็หมูมะนาวครับ”
พนักงานจดเสร็จก็ขอตัวไป ทั้งโต๊ะก้เลยเหลือเพียงผมกับพี่จินสองคน...ก็แบบถ้ามันจะเหลือแค่สองคนจริงๆอ่ะนะ
ก็ดูสิ แถวนี้อ่ะมีเพียงโต๊ะที่ผมนั่งเท่านั้นอ่ะ แล้วโต๊ะอื่นหายไปไหนกันหมดดดดด!!!
“ไม่ชอบร้านนี้หรอ?” ร้านน่ะชอบนะ แต่ไม่ชอบคน!!
“เปล่าฮะ ร้านสวยดี...” ผมตอบอีกอย่างกับที่ผมคิด
แล้วก้มหน้าก้มตาเหมือนเดิม
“หยก...” ผมเงยหน้าตามเสียงเรียกของพี่จิน
และก็เจอเข้ากับสายตาที่มองมาทางผมแบบที่ผมมองไม่ออก ว่ามันหมายความว่าไง
“ฮะ?”
ได้แต่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา....แล้วผมจะพูดเสียงเบาทำไม??
“พี่ขอโทษเรื่องเมื่อวานด้วยนะ ครับ”
พี่จินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมเองยังอึ้งอีกด้วยอ่ะ
“พี่มาขอโทษผมทำไม?” ผมถามในสิ่งที่ผมยังไม่เข้าใจอยู่
ถ้าไอ้เรื่องที่พี่เขาตะคอกใส่ผมนั่นน่ะ ยอมรับเลยว่าผมโกรธมาก
แต่ผมก็พยายามที่จะลืมๆมันไปซะ
อีกอย่างผมก็บอกพี่มันไปแล้วไงว่าผมน่ะไม่ได้คิดอะไรแล้ว...
“พี่ไม่อยากเห็นหยกเป็นแบบนี้เลยครับ รู้มั้ยหยกที่ไม่พูด
ไม่โวยวาย ไม่ส่งเสียงว่าพี่น่ะ มันไม่เหมือนหยกเลยนะ!” อึก!! อะ ไอ้บ้า ใครเขาจะมาพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้ากันเล่า
“ผะ ผมก็บอกไปแล้วนี่
ว่าช่างมันอ่ะ...พี่น่ะคิดมาก” ผมพูดไปน้าร้อนไป
ทำอะไรไม่ถูกเลยนอกจากจะนั่งก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม
ทั้งผมทั้งพี่จินนั่งทานอาหารไปเรื่อยๆ
พูดคุยกันบ้างบางเวลา(เมื่อจินถาม) ตอนนี้ก็ปาเข้าไป เกือบจะสามทุ่มแล้ว
พี่จินมันบอกจะพาผมไปเดินเล่นก่อน ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไร
กินอิ่มๆเดินให้ย่อยบ้างก็ดี อย่าถามว่าที่ไหน
ก็มีที่เดียวอ่ะฮะ ที่จะเดินเล่นได้ในเวลาแบบนี้(นอกจากสวนสาธารณะ)
“พี่จะพาผมไปไหนน่ะ”
ผมถามเมื่อเราเดินเข้ามาในห้าง
“ก็ตอนแรกตั้งใจจะพาไปกินไอศครีมโยเกิร์ตอ่ะ...แต่คงจะอิ่มแล้ว”
อ๊ะ!!
ผมเบิกตากว้างจ้องมองพี่จินที่เดินอารมณ์ดีอยู่ข้างๆ
พี่มันรู้ได้ไงว่าผมชอบไอศครีมโยเกิร์ต จะยังไงก็ช่างเถอะ ค่อยสืบที่หลังตอนนี้
หยกต้องการอย่างแรง(?)
“ผมยังกินไหว!!” ผมรีบพูดบอกไป อย่างที่บอกผมอิ่มข้าว
แต่ผมไม่ได้อิ่มอย่างอื่นสักหน่อย
“ฮ่าๆๆ เข้าใจแล้วครับ งั้นไปกันเลยนะ”
พูดจบพี่จินก็จับมือผมเดินขึ้นบรรไดเลื่อนไปยังชั้นสามของห้าง และตรงไปที่โซนร้านไอศครีม
โหยย มีหลายร้านขนาดนี้จะเลือกร้านไหนเนี่ย??
“เอ่อ...เยอะจัง” ผมพูดโดยที่ลืมไปว่างพี่จินมันยังจับมือผมอยู่
แถมโซนนี้คนเยอะด้วยสิ ตามร้านไอศครีมเนี่ย ไม่ใช่แค่เยอะธรรมดานะฮะ
ยังจ้องมองที่ทางเราอีก พวกผู้หญิงนี่ซุบซิบๆ กันใหญ่เลยอ่ะ
“ทำไมคนมองกันจังอ่ะ ไม่ชอบเอาซะเลย”
ผมพูดหน้าบึ้ง เมื่อมองไปทางไหนก็เจอแต่สายตาที่มองมาแบบแปลกๆ
(ยังไม่รู้ตัวเรื่องมือ)
“ช่างเถอะครับ ป่ะ”
ว่าจบก็พาผมเดินเข้าไปในร้านที่ค่อนข้างจะมีคนน้อยกว่าร้านอื่น ผมมองพี่จินแบบงงๆ
ร้านนี้มันคนน้อยจัง ไม่อน่อยเหมือนร้านอื่นหรอ คนถึงไม่ค่อยเข้าอ่ะ??
“เปล่าครับ ร้านนี้อร่อยเหมือนร้านอื่นแหละ
แต่ที่คนน้อยเพราะว่าร้านนี้น่ะเป็นร้านไอศครีมโยเกิร์ตโดยเฉพาะ
ซึ่งคนส่วนใหญ่เขาจะไม่ทานแค่โยเกิร์ตอย่างเดียว” แบบนี้นี่เอง
ผมนั่งลงบนโซฟาตัวตรงข้ามกับพี่จิน และมองเมนูที่พนักงานเอามาให้
งื้มมม มีแต่ของน่ากินๆทั้งนั้นเลยอ่ะ
จะกินอะไรดีนะ?
“ผมเอาพั้นช์เบอร์รี่ แล้วก็ แฟรนไชส์ สตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต ครับ...หยกจะทานอะไร?”
พี่จินสั่งเครื่องดื่มกับไอศรีมแล้ว หันมาถามผม ผมมองเมนูอยู่สักพักก็สั่งบ้าง
“หยกเอาสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต แล้วก็
โยเกิร์ตฟรุ๊ตสลัด เครื่องดื่มขอเป็นน้ำแอปเปิ้ลฮะ” ผมสั่งยิ้มๆ แต่ก้เจอสายตาดุๆจากพี่จินส่งมา
พี่เขาไม่พูดกับผม แต่หันไม่หาพนักงานแทน
“เอาแค่โยเกิร์ตฟรีตสลัด
กับเครื่องดื่ม ให้นอนพอครับ สตรอเบอร์รี่โยเกิร์ตยังไม่เอา” พนักงานพยักหน้าแล้วทวนรายการก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์
ผมได้แต่อ้าปากค้าง แล้วหันมามองพี่จินด้วยความไม่พอใจแทน
“พี่ไปบอกแบบนั้นได้ไง!” ผมโวยวายด้วยเสียงที่ได้ยินแค่สองคน
“พี่บอกอะไร?”
“กี่บอกพี่พนักงานว่าไม่เอาสตรอเบอร์รี่อ่า”
“แล้วยังไง??” ไอ้บ้าเอ๊ย
แล้วยังไงหรอ นั่นมันขอชอบผมเลยน๊าาาาาาาา....
“แต่ผมสั่ง...”
“สั่งมาสองอย่างพร้อมกัน
เกิดมันละลายจะทำยังไง ถึงจะเป็นโยเกิร์ตแต่มันก็คือไอศครีมนะหยก” จุกเลยสิฮะ ก็เล่นพูดมาขนาดนั้นนี่
ก็ผมอยากกินอ่าา มันผิดหรอ?
ผิดมากเลยหรอ??
“โอเค หยกผิดเองแหละ
เชิญพี่ตามสบายเลย” ผมพูดแล้วหันหน้าหนีพี่จิน ไม่ได้โกรธ อะไรนะฮะ
แค่ผมคิดว่าพี่เขาพูดถูกเลยจะยอม แค่นั้นเอง ชิส์!!
“เฮ่อออ งอนอะไรพี่อีกครับ หื้ม?”
ห๊ะ!!
ผมว่าผมหูฝาด พี่จินพูดว่าอะไรนะ?? บอกว่าผมงอนพี่เขาหรอ? บ้าไปแล้ว!
“ผมเปล่าเลยฮะ”
“พี่ยอมแพ้แล้ว
หยกจะทานเท่าไหร่ก็ตามใจหยกเลยครับ แต่อย่างอนพี่เลยนะครับ...พี่ขอโทษ”
ไปกันใหญ่แล้ววววว ใครก็ได้มาเก็บพี่จินที
ใบหยกเพลีย...
-------------------------++++++++++++++----------------------------
100% แบบแปลกๆ
ทำไมเขียนไปเขียนมา ถึงงงเองก็ไม่รู้สิขอรับ???
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น